ธนาคารกลางจีนอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.27% ในเดือนมีนาคม 2553 เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ยติดลบสำหรับเงินฝาก แทนการเลือกใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด พร้อมกับชี้ว่าเงินเฟ้อไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจจีน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซุน หมิงฉวน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโนมูระ ซีเคียวริตี้ส์ ในประเทศจีน ได้เผยคาดการณ์ดังกล่าวในรายงานที่มีการเผยแพร่วันนี้ พร้อมคาดการณ์ด้วยว่า แบงก์ชาติจีนจะขึ้นดอกเบี้ยรวม 0.81% และ 1.08% ในปี 2553 และ 2554
นอกจากการคาดการณ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยแล้ว นายซุนยังได้คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก อาจแตะระดับต่ำสุดในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และจะดีดขึ้นแตะ 2.9% ในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัวขึ้นปานกลาง 2.5% และ 3.5% ในปี 2553 และ 2554 ตามลำดับ
รายงานระบุว่า ราคาอาหารจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันระดับ CPI จนถึงปี 2554 ขณะที่ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารจะยังคงทรงตัว อย่างไรก็ตาม นายซุนเชื่อว่าจะไม่เกิดภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากรัฐบาลจะสามารถควบคุมราคาอาหารได้
อย่างไรก็ตาม นายซุนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ว่าจะขยายตัวขึ้น อันเนื่องมาจากกระแสเงินทุนไหลเข้า ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจจีนยังคงเหนือกว่าเศรษฐกิจประเทศอื่นๆ
สำหรับสภาพคล่องของจีนนั้นยังคงมีปริมาณมากพอในช่วงนี้ และเชื่อว่าธนาคารกลางจีนจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปี 2553 และแม้แต่ในปี 2554 เนื่องจากจีนยังจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ซึ่งจะยิ่งทำให้ภาวะฟองสบู่ในราคาสินทรัพย์พองตัวขึ้นไปอีก