นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดค้าปลีกสหรัฐอาจดีดตัวมากสุดในรอบกว่า 3 ปีในเดือนสิงหาคม หลังได้รับอานิสงค์จากโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ของรัฐบาลโอบามา
โดยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 73 รายซึ่งจัดทำโดยบลูมเบิร์กนิวส์คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัว 1.9% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือว่ามากสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2549 หลังจากที่หดตัว 0.1% ในเดือนกรกฎาคม แต่ถ้าไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ ยอดค้าปลีกอาจโตเพียง 0.4%
"การใช้จ่ายผู้บริโภคมีการขยายตัวเล็กน้อยอันเป็นผลมาจากโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่" โจเซฟ บรูซูลาส ผู้อำนวยการ Moody’s Economy.com ในเพนซิลเวเนีย กล่าว "นอกจากนั้นยอดขายรถที่เพิ่มขึ้นยังหนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตดีดตัวในไตรมาส 3 ด้วย"
อย่างไรก็ตาม มีกระแสคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะทะยานแตะ 10% ในไตรมาสหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคคงไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะช่วยดึงเศรษฐกิจขึ้นมาจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบเกือบ 80 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดเปิดเผยยอดค้าปลีกอย่างเป็นทางการในเวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ในช่วงขยายตัว 0.8-3.8%