เงินวอนของเกาหลีใต้และรูปีของอินเดียแข็งค่าขึ้นนำสกุลเงินเอเชียพุ่งสูงขึ้นถ้วนหน้า จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางของประเทศในเอเชียจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าสหรัฐ
ยู จอง ฮุน รมว.คลังเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้จำเป็นต้องหาทางยกเลิกมาตรการกระตุ้นภาคการคลัง ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากที่ธนาคารกลางส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2% ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ คาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อินเดียและอินโดนีเซียจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจในเอเชียเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว
นักวิเคราะห์จากดอยช์แบงก์ เอจี ในสิงคโปร์กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารต่างๆจะเริ่มมีความวิตกกังวลต่อผลกระทบของการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลัง นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ลดลง ประกอบกับความเชื่อที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำนั้นเป็นปัจจัยที่หนุนการแข็งค่าของสกุลเงินในเอเชีย"
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 14:57 น.ตามเวลาในกรุงโซล เงินวอนแข็งค่าขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่เงินรูปีของอินเดียขยายตัว 0.4%
ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียได้คงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรไว้ในระดับเดิมที่ 3.25% เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณถึงความเป็นจำเป็นที่จะยุติการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนปรนในเร็ววันนี้ หลังจากที่ใช้นโยบายดังกล่าวมานานถึง 10 เดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียในเดือนส.ค.ขยายตัวเร็วขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางในเอเชียจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่เฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2554