นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) เกี่ยวกับแนวทางประกันราคาข้าวเปลือกปี 52/53 โดยกำหนดราคาข้าวเปลือกปทุมธานี 1 และข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ราคา 10,000 บาท/ตัน
กำหนดปริมาณประกันราคา 20 ตัน/ครัวเรือน โดยกำหนดเป้าหมายและพื้นที่ดำเนินการสำหรับประกันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเหนียว, ข้าวเปลือกปทุมธานี 1, ข้าวเปลือกเจ้าในพื้นที่ทั่วประเทศ
ส่วนข้าวหอมมะลิประกันราคาที่ 15,300 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกหอมจังหวัด 14,300 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกเหนียว 9,500 บาท/ตัน กำหนดเวลาใช้สิทธิประกันตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52-1 ก.พ.53
พร้อมกันนี้ยังอนุมัติค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 135.95 ล้านบาท โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์โครงการถึง 80 ล้านบาท นอกนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการทั่วไป ส่วนเงินที่ใช้ในการชดเชยส่วนต่าง รัฐบาลจัดสรรให้ ธ.ก.ส.ประมาณ 25,000 ล้านบาท
นายวัชระ กล่าวว่า ครม.ยังรับทราบแนวทางการระบายสินค้าเกษตรจากการรับจำนำในปี 51/52 โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ว่ามีผู้เสนอราคาและผ่านคุณสมบัติ 4 ราย รวมทั้งสิ้น 585,000 ตัน โดยเสนอราคาตั้งแต่ 2,300-4,800 บาท/ตัน ซึ่งเป็นการเสนอซื้อเพื่อการส่งออก ส่วนการซื้อเพื่อใช้ในประเทศผ่านคุณสมบัติ 44 ราย ปริมาณ 377,800 ตัน ราคาเสนอซื้อ 2,995-4,900 บาท/ตัน
สำหรับการระบายมันสำปะหลังนั้นมีเอกชนเสนอซื้อสำหรับมันเส้นเพื่อการส่งออกปริมาณ 89,000 ตัน มูลค่า 378.73 ล้านบาท และเพื่อใช้ในประเทศปริมาณ 113,300 ตัน มูลค่า 441 ล้านบาท ส่วนแป้งมันสำปะหลังเพื่อการส่งออกจำหน่ายได้ 69,180 ตัน มูลค่า 553 ล้านบาท แป้งมันเพื่อใช้ในประเทศปริมาณ 38,565 ล้านตัน มูลค่า 319 ล้านบาท
"ครม.ได้รับทราบข้อสังเกตของคณะทำงานว่า ควรชะลอระบายมันเส้น โดยอาจเปลี่ยนจากการระบายทุกสัปดาห์เป็นทุก 15 วัน เนื่องจากการที่รัฐบาลระบายมันเส้นที่รับจำนำออกไปแล้วถึง 1 ล้านตัน ทำให้ผู้ส่งออกประสบปัญหาด้านการขนส่งเกดการแข่งขันว่าจ้างเรือบรรทุกและโป๊ะเรือ ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น" นายวัชระ กล่าว