กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2%หลังจากที่ร่วงลง 0.9% ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% เนื่องจากราคาพลังงาน
นักวิเคราะห์หลายท่านเชื่อว่า เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสปัจจุบัน แต่มองว่าการดีดตัวของเศรษฐกิจจะไม่สามารถบรรเทาแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อได้ เพราะตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายประเมินว่า ราคาผู้บริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสนี้ หลังจากที่ลดลงในไตรมาส 2 เพราะอานิสงส์จากโครงการนำรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ของรัฐบาล ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวได้สูงสุด 3-4% อันจะนำพาให้เศรษฐกิจสหรัฐหลุดพ้นจากภาวะถดถอยหนักสุดในปี 1930 ได้
ขณะเดียวกันมีบางกระแสกังวลว่า หากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคไม่ขยายตัวขึ้น การฟื้นตัวทางเศรษกิจจะยังเป็นไปอย่างเชื่องช้าจนถึงปีหน้า เนื่องจากรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ จากตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่ออัตราค่าแรงและบั่นทอนอำนาจซื้อของผู้บริโภค โดยขณะนี้อัตราว่างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.7% และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะทะยานขึ้นแตะ 10% ในสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัวไปอยู่ราว 10.3% ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า