องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานในประเทศอุตสาหกรรมอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีหน้า แซงหน้าระดับสูงสุดในปัจจุบัน หลังเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าในปีหน้า
โดยรายงานแนวโน้มการจ้างงานฉบับล่าสุดของ OECD ระบุว่า อัตราว่างงานใน 30 ประเทศสมาชิกกลุ่ม OECD อาจพุ่งแตะ 10% หรือ 57 ล้านคนในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า จากระดับสูงสุดที่ 8.3% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
OECD ยังกล่าวด้วยว่าแนวโน้มการจ้างงานที่มืดมนอาจทำให้อัตราว่างงานพุ่งสูงแบบถาวร ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ
"หลายประเทศในกลุ่ม OECD ยังมีอัตราว่างงานในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการทำให้อัตราว่างงานกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนเกิดวิกฤต" OECD ระบุในรายงาน
รายงานของ OECD ฉบับเดือนมิถุนายนระบุว่า อัตราว่างงานในกลุ่ม OECD มีตั้งแต่ระดับต่ำสุดที่ 3.3% ในเนเธอร์แลนด์ ไปจนถึงระดับสูงสุดที่ 18.1% ในสเปน ส่วนอัตราว่างงานในสหรัฐอยู่ที่ 9.5% มากกว่าสหภาพยุโรปซึ่งอยู่ที่ 8.9%
นอกจากนั้น OECD ยังรายงานว่าสภาพตลาดแรงงานมีแนวโน้มแย่ลงอีกในช่วงไม่กี่เดือนหลังจากนี้ ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้อาจทำให้อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศ OECD เพิ่มขึ้นอีก 25 ล้านคนในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี
ทั้งนี้ OECD ได้กระตุ้นให้รัฐบาลแต่ละประเทศใช้มาตรการกระตุ้นตลาดแรงงานให้มากขึ้นเพื่อช่วยให้คนว่างงานได้มีงานทำ พร้อมยืนยันว่าการทุ่มงบประมาณไปกับมาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและสมเหตุสมผล แม้หลายประเทศจะยังคงประสบปัญหาการเงินจากการทุ่มเงินไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอยก็ตาม สำนักข่าวเอพีรายงาน