สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อหลัก ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญกับเงินเฟ้อ
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,020.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,023.30-1,007.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.43 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 43.00 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,350.10 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 29.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 300.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.25 ดอลลาร์
มิเกล เปเรซ แซนเทลลา นักวิเคราะห์ด้านโลหะมีค่าจากบริษัท Heraeus Precious Metals Management กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ทั่วไปพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้น 0.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้
"การประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงจะสิ้นสุดลง ประกับกับข้อมูลภาคการผลิตและตัวเลข CPI ที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนมองว่าทองคำเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เพราะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตเร็วเกินคาดจะทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมาด้วย" แซนเทลลากล่าว