นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลความร่วมมือในด้านการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งมีผู้แทนจากทั้งภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะยกระดับในการเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีด้านการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในอนาคต
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นที่ขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลด้านการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)ของไทย เปิดโอกาสให้บริษัทไม่ว่าสัญชาติใดสามารถกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจในไทยนั้น เรื่องนี้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในคณะอนุกรรมการร่วมไทย-ญี่ปุ่นด้าน SMEs ภายใต้กรอบ JTEPPA ได้แจ้งถึงความคืบหน้าการเข้าไปดูแลปัญหาของผู้ประกอบการ SMEs ญี่ปุ่นในไทยแล้ว และอยู่ระหว่างจัดทำประเด็นหารือกับญี่ปุ่นในระหว่างการจัดการประชุม Sub-Committee on SMEs ร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่นที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.52
นอกจากนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้กิจการสำนักงานภูมิภาค(ROH) ที่ตั้งในไทยสามารถทำหน้าที่เป็น Holding Company และ Financial Center นั้น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนมีมติตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในกิจการปฏิบัติการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน
ขณะที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงนโยบายการส่งเสริมการลงทุนที่จะปรับปรุงและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อวันที่ 14 ก.ย.52 รวมถึงการจัดตั้งหน่วย One Start One Stop Service Center(OSOS) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนและการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจของนักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงความคืบหน้าของกฎเกณฑ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่มาบตาพุด