องค์การที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(UNCTAD) เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (FDI) ทั่วโลกหดตัวลง 14% ในปีพ.ศ.2551 สู่ระดับ 1.70 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีพ.ศ.2550 ที่ระดับ 1.98 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 ปี และคาดว่าตัวเลข FDI ทั่วโลกจะหดตัวลงสู่ระดับ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในปีหน้า
UNCTAD กล่าวในรายงานประจำปีว่า วิกฤตเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตัวเลข FDI ส่วนปัจจัยที่ทำให้ตัวเลข FDI ทั่วโลกหดตัวลงอย่างมากในปี 2551 มาจากการที่ FDI ในกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจลดลงถึง 29% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาวะอ่อนแอของธุรกรรมการควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคคอมมอนเวลธ์ ออฟ อินดิเพนเดนท์ สเตทส์ และยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงอัลบาเนีย มีตัวเลข FDI พุ่งขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2551
ส่วนในสหรัฐอเมริกายังคงมีตัวเลข FDI มากที่สุดในปี 2551 แม้วิกฤตการณ์ในตลาดากรเงินของสหรัฐส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีก็ตาม โดยตัวเลข FDI ในสหรัฐพุ่งขึ้น 17% แตะระดับ 3.1611 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่ตัวเลข FDI ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 8% แตะระดับ 2.443 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน