อังกฤษเผยยอดขาดดุลบัญชีงบประมาณเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2536 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ในการจัดเก็บภาษี ขณะที่งบค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีของอังกฤษในเดือนส.ค.อยู่ที่ 1.61 หมื่นล้านปอนด์ (2.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับ 9.9 พันล้านปอนด์ในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า ตัวเลขขาดดุลของจะอยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านปอนด์
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า อังกฤษจำเป็นต้องลดการใช้จ่ายที่กำลังพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ยุค 1970 เพื่อบรรเทาความเสียหายจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อรายได้สาธารณะ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่ายอดขาดดุลบัญชีของอังกฤษจะพุ่งสูงเกินกว่า 13% ของตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มประเทศจี-20
"สถานการณ์ด้านงบประมาณของอังกฤษในขณะนี้อยู่ในขั้นเลวร้าย" ฟิลิป ชอว์ นักวิเคราะห์จากอินเวสเทค ซีเคียวริตี้ในลอนดอนกล่าว "เราหวังว่าผู้ที่มีอำนาจจะประกาศใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินครั้งใหญ่ในปีหน้า"
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีที่พุ่งสูงขึ้นจะกลายเป็นประเด็นสำคัญทางการเมืองที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงคลังคาดการณ์ว่ายอดขาดดุลในปีงบประมาณที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. 2553 จะอยู่ที่ 1.75 แสนล้านปอนด์ หรือ 12.4% ของจีดีพี โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขาดดุลของอังกฤษอยู่ที่ 6.53 หมื่นล้านปอนด์ เมื่อเทียบ 2.61 หมื่นล้านปอนด์ในปีก่อนหน้านี้