สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์ได้เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรเพราะเชื่อว่าสกุลเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยหนุนสัญญาทองคำในระยะกลาง
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,010.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1017.0-1010.0 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 17.065 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 0.2% ปิดที่ 1,338.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.4% ปิดที่ 304.50 ดอลลาร์/ออนซ์
จิสเบิร์ต โกรเอ็นเวเจน นักวิเคราะห์จากบริษัท Gold Arrow Capital Management ในนิวยอร์ก กล่าวว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและน้ำมันดิบ แต่คาดว่าในระยะกลางนี้ ดอลลาร์ยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัว ซึ่งจะเป็นแรงหนุนทองคำ อย่างไรก็ตาม การที่สัญญาทองคำเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์เป็นเวลาหลายวัน ก็อาจทำให้นักลงทุนและผู้บริโภคนำทองคำออกมาขายเพื่อทำกำไร
สัญญาทองคำในตลาด COMEX ที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ กำลังกระตุ้นผู้บริโภคนำทองรูปพรรณจำพวกสร้อยข้อมือและสร้อยคอทองคำออกมาขายและได้กำไรมากถึง 6 เท่า โดยฟิลิป แคล็ปวิจ ประธานบริษัท GFMS Ltd ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยอุตสาหกรรมทองคำ คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคจะนำเครื่องประดับทองคำออกมาขายมากขึ้นอีก 22% ในปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในรอบกว่า 60 ปีทำให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี