ยอดขายบ้านของสหรัฐและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนส.ค.มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐกำลังหลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1930
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองในเดือนส.ค.จะไต่ระดับขึ้นแตะที่ 5.79 ล้านหลัง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งทำสถิติขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
ตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตเป็น 2 ภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพจากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การให้สินเชื่อแก่ผู้ซื้อบ้านหลังแรก และโครงการนำรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ที่ช่วยหนุนอุปสงค์ให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
สจ๊วร์ต ฮอฟแมน นักวิเคราะห์จากพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิส กรุ๊ป อิงค์กล่าวว่า "เรากำลังหลุดพ้นจากภาวะถดถอย และอยู่ในช่วงแรกของการฟื้นตัว ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์ต่างๆยังมีความเปราะบางอยู่มาก ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง ซึ่งนั่นหมายความว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้"