สหรัฐเผยต่างชาติแห่ซื้อพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น ขณะจีนยังครองแชมป์ถือครองพันธบัตรสูงสุด

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากขึ้น เพราะเชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปีและยอดขาดดุลงบประมาณพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ก็ตาม

รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ของสหรัฐร้อยละ 43.1 ของพันธบัตรและตราสารหนี้ทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐนำออกประมูลในปีนี้มูลค่า 1.41 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับร้อยละ 27.1 ของพันธบัตรที่นำออกประมูลในปีที่แล้วมูลค่า 5.27 แสนล้านดอลลาร์

ดัชนีดอลลาร์ที่ร่วงลง 15% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่กลุ่มผู้จัดการกองทุนมั่นใจว่าเม็ดเงินลงทุนของพวกเขาจะปลอดภัยในสหรัฐ เพราะเชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

ข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐบ่งชี้ว่า จีนซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐ เข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มขึ้นอีก 2.41 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. หลังจากเข้าซื้อไปแล้ว 2.51 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐรวมมูลค่า 8.005 แสนล้านดอลลาร์ในขณะนี้ โดยจีนถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า ดีมานด์พันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นเพราะนักลงทุนเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย และเนื่องจากรัฐบาลในต่างประเทศยังคงถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหลังจากเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐออกไปจำนวนมากในช่วงก่อนหน้านี้

บลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะนำพันธบัตรรัฐบาลประเภท 2 ปี 5 ปี และ 7 ปี มูลค่ารวม 1.12 แสนล้านดอลลาร์ออกประมูลในสัปดาห์นี้