ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า กลุ่มผู้นำในที่ประชุม G20 ซึ่งจะประชุมกันในวันที่ 24 - 25 ก.ย.นี้ จะกระตุ้นบรรดาผู้นำของนานาประเทศใช้มาตรการยกเครื่องการกำกับดูแลด้านการเงินครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและราคาหุ้นของธนาคารทั่วโลก รวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และบาร์เคลย์ส
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำในกลุ่ม G20 เตรียมเข้าประชุมร่วมกันที่เมืองพิตส์เบิร์กของสหรัฐในระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. เพื่อหารือกันเรื่องการบังคับใช้เพื่อยกเครื่องระบบการเงินและออกกฏข้อบังคับให้สถาบันการเงินเพิ่มสภาพคล่อง นอกจากนี้ ที่ประชุมจะชูประเด็นการจ่ายเงินโบนัสให้กับผู้บริหารธนาคาร
แอนดรูว์ แคลร์ ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัย Cass Business School ในลอนดอน ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า "นับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส สถาบันการเงินทั่วโลกก็ประสบปัญหาอย่างหนัก และรัฐบาลทั่วโลกก็ใช้มาตรการที่เข้มงวดในเรื่องการปล่อยกู้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ที่ประชุม G20 ดำเนินการยกเครื่องระบบการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและราคาหุ้นของธนาคารทั่วโลก นับตั้งแต่โกลด์แมน แซคส์ ไปจนถึงบาร์เคลย์ส"
บลูมเบิร์กรายงานว่า G20 เป็นกลุ่มประเทศที่มีมูลค่าเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 85 ของมูลค่าเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีสมาชิกได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ สหภาพยุโรป อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ และตุรกี