อดีตนายกฯอังกฤษชี้หากทำข้อตกลงโลกร้อนได้ช่วยหนุนสร้างงาน 10 ล้านตำแหน่ง

ข่าวต่างประเทศ Monday September 21, 2009 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยผลการศึกษาของตนเองร่วมกับไคลเมท กรุ๊ปว่า การทำข้อตกลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในทุกประเทศเพื่อที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้น จะช่วยสร้างงานได้มากถึง 10 ล้านตำแหน่งภายในปี 2563 ถ้าหากว่าทุกประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้จริง

บลูมเบิร์กรายงานว่า ทางกลุ่มจะนำเสนอผลการศึกษากับนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นภายในวันนี้ ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นในการประชุมยูเอ็นที่นิวยอร์กและการประชุม G-20 ที่พิตส์เบิร์ก

ล่าสุดมีการหารือกันมากขึ้นถึงวิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ซึ่งสหรัฐและจีน รวมทั้งประเทศที่เป็นตัวการก่อมลพิษต่างตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการผลักดันให้เกิดความคืบหน้า ก่อนที่การประชุมเรื่องสนธิสัญญาฉบับใหม่จะเริ่มขึ้นในเดือนธ.ค.ที่ประเทศเดนมาร์ก

แบลร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การทำข้อตกลงที่การประชุมที่โคเปนเฮเกนให้ได้นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น และเขาคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ซึ่งผู้นำประเทศ และประชาชนจะต้องทำให้เห็นว่าการลงทุนในโครงการใดๆนั้นจะต้องควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์จากเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันและถ่านหิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการจ้างงานด้วยเช่นกัน โดยต้นทุนในการดำเนินการนั้นตกลงมากภายใต้ขอบเขตของความร่วมมือกัน

แบลร์กล่าวต่อไปว่า หากประเทศต่างๆมีส่วนร่วมในข้อตกลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับการไม่ลงมือดำเนินการเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์

ผลการศึกษาซึ่งอิงการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ด้วยนั้น ยังระบุว่า ข้อตกลงด้านสภาพอากาศทั่วโลกฉบับใหม่จะช่วยให้ประเทศต่างๆสามารถลดราคาในการชำระค่าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ได้จากเดิมที่ 65 ดอลลาร์ต่อตันมาอยู่ที่ 4 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งความร่วมมือกันจะทำให้เกิดเครือข่ายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์แบบต้นทุนต่ำภายใต้ข้อตกลงแบบพหุภาคี และเมื่อตลาดขยายตัวมากขึ้น เทคโนโลยีใหม่ๆก็จะมีใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น บริษัทต่างๆ เช่น เจนเนอรัล อิเล็กทริก ได้เคยเรียกร้องให้มีการตั้งราคาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ เพื่อกระตุ้นดีมานด์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ