ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มต้นขึ้นในคืนวันอังคารที่ 22 ก.ย.และเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธที่ 23 ก.ย.ตามเวลาไทย นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4671 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4707 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6202 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6270 ปอนด์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.83% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 92.040 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 91.280 เยน/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0325 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0295 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.54% แตะที่ 0.8626 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่0.8673 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.34% แตะที่ 0.7063 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7087 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เฮนริค กัลเบิร์ก นักวิเคราะห์จากดอยช์แบงค์ เอจี กล่าวว่า เทรดเดอร์เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% แตะที่ 102.5 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยดัชนีชี้นำเศษฐกิจเป็นดัชนีชี้วัดมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อชดเชยการขาดทุน ก่อนที่การประชุมเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 22-23 ก.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าคณะกรรมการเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.25%
นักลงทุนจับตาดูการประชุม G20 ในวันที่ 24 - 25 ก.ย.นี้ โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าที่ประชุมจะกระตุ้นบรรดาผู้นำของนานาประเทศให้ใช้มาตรการยกเครื่องการกำกับดูแลด้านการเงินครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและราคาหุ้นของธนาคารทั่วโลก รวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และบาร์เคลย์ส
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำในกลุ่ม G20 เตรียมเข้าประชุมร่วมกันที่เมืองพิตส์เบิร์กของสหรัฐในระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. เพื่อหารือกันเรื่องการบังคับใช้เพื่อยกเครื่องระบบการเงินและออกกฏข้อบังคับให้สถาบันการเงินเพิ่มสภาพคล่อง นอกจากนี้ ที่ประชุมจะชูประเด็นการจ่ายเงินโบนัสให้กับผู้บริหารธนาคาร
แอนดรูว์ แคลร์ ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัย Cass Business School ในลอนดอน ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า "นับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส สถาบันการเงินทั่วโลกก็ประสบปัญหาอย่างหนัก และรัฐบาลทั่วโลกก็ใช้มาตรการที่เข้มงวดในเรื่องการปล่อยกู้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ที่ประชุม G20 ดำเนินการยกเครื่องระบบการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและราคาหุ้นของธนาคารทั่วโลก นับตั้งแต่โกลด์แมน แซคส์ ไปจนถึงบาร์เคลย์ส"