ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือน ส.ค.52 มีจำนวน 5.59 ล้านล้านบาท ขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าเพียง 755 ล้านบาท แต่ลดลง 2.23 แสนล้านบาท จากยอดคงค้าง 5.82 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2551
แต่ยอดเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นเดือน ส.ค.52 มีจำนวน 6.38 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.72 หมื่นล้านบาท จาก 6.30 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือน ก.ค.52 แต่ลดลง 1.02 แสนล้านบาท จากสิ้นปี 51 และการเพิ่มขึ้นยอดเงินฝากที่มากกว่ายอดเงินให้สินเชื่อสุทธิในเดือน ส.ค. บ่งชี้ว่า ภาวะสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีทิศทางที่ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มองว่าการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์สภาพคล่องในงบดุลของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในเดือน ส.ค.52 หลังจากที่ลดลงติดต่อกันในช่วง 3 เดือนก่อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะธนาคารพาณิชย์มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการทยอยไหลออกของเงินฝากไปสู่ทางเลือกในการออมอื่นๆ โดยเฉพาะพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งของรัฐบาลที่ออกมาในเดือน ก.ค. รวมถึงกองทุนรวมตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน มีการนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นได้จากการที่ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีการทยอยออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำระยะยาวพิเศษและ/หรือตั๋วแลกเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป เพื่อดึงดูดลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยอาจยังมีแนวโน้มปรับลดลงในระยะที่เหลือของปี 52 โดยด้านเงินฝากนั้น คาดว่าจะยังคงต้องเผชิญความท้าทายจากทางเลือกในการออมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกพันธบัตรออมทรัพย์ รวม 1.3 แสนล้านบาท เมื่อเดือน ก.ย.52 และกระทรวงการคลัง มีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งอีกในช่วงปลายปี 52
นอกจากนี้ ทิศทางการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ไทยในระยะที่ผ่านมา อันเป็นผลจากความคาดหวังในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ยังอาจจะเป็นโอกาสสำหรับการนำเสนอกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นของ บลจ.ต่างๆ เพราะผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับจากการลงทุนจะมีช่วงห่างที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทั่วไปของธนาคารพาณิชย์
ส่วนในด้านสินเชื่อนั้น หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ความต้องการสินเชื่อก็น่าที่จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น และส่งผลตามมาให้สภาพคล่องที่ระบบธนาคารพาณิชย์ค่อยๆ ถูกดูดซับออกไป
ทั้งนี้ จากสภาพคล่องที่อาจมีแนวโน้มลดลงดังกล่าว ถ้าการแข่งขันกับทางเลือกในการออมอื่นๆ ยังคงมีความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ก็มีโอกาสมากขึ้นที่อาจจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเป็นการทั่วไปของธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความต่อเนื่องและเป็นไปตามที่คาดหวังไว้