ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนของจีนจะพุ่งขึ้น 24% แตะที่ 5.5 หยวนต่อดอลลาร์ภายในปีพ.ศ.2558 เพราะจีนมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนดุลบัญชีเดินสะพัดให้อยู่ในสถานะเกินดุลอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาพยายามกดดันให้จีนปรับเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น
ประธานาธิบดีโอบามาตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าพิเศษในอัตรา 35% สำหรับยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเบาของจีนเป็นเวลา 1 ปี เพิ่มเติมจากภาษีนำเข้าปรกติในอัตรา 3.4-4.0% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 ก.ย.
การตัดสินใจของสหรัฐในครั้งนี้ทำให้จีนประณามว่ามาตรการดังกล่าวไม่เพียงแต่ละเมิดกฎขององค์การการค้าโลกเท่านั้น แต่ยังสวนทางกับคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลสหรัฐให้ไว้ในการประชุมสุดยอดด้านการเงินของกลุ่ม G20 พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐมีเจตนากีดกันทางการค้าและความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย
สตีเฟ่น กรีน หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายวิจัยของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า "การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐไม่เกรงกลัวอิทธิพลของจีนแม้ว่าต้องเสียผลประโยชน์ทางการค้าก็ตาม"
บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลของตลาดปริวรรตเงินตราจีน ว่า ณ เวลา 11.00 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ ค่าเงินหยวนทรงตัวอยู่ที่ 6.8283 หยวนต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าประจำเดือนส.ค.ของจีนอยู่ที่ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 45% จากปีที่แล้ว ขณะที่ยอดส่งออกลดลง 23% และยอดนำเข้าลดลง 17%
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่ายอดส่งออกของจีนจะพุ่งขึ้นอีกในปีหน้า และคาดว่าดีมานด์นำเข้าวัตถุดิบจะลดลง