คณะกรรมาธิการผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกโรงเรียกร้องให้มีการยกเครื่องระบบการเงินโลก ด้วยการใช้สกุลเงินสำรองสากลแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ภาคการเงินโลกมีเสถียรภาพและมีความสมดุลมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานที่คณะกรรมาธิการยื่นต่อประธานการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ระบุว่า ระบบการเงินโลกในปัจจุบันไม่สามารถควบคุมความไม่สมดุลทางการเงินได้ ส่งผลให้เกิดการเข้าถือครองเงินดอลลาร์จำนวนมาก
"สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เงินดอลลาร์ลดความน่าเชื่อถือลงในฐานะเครื่องวัดมูลค่าของสกุลเงินอื่นทั่วโลก" รายงานดังกล่าวระบุ
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า สหรัฐใช้นโยบายทางการเงินโดยมิได้พิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่ออุปสงค์หรือสภาพคล่องในตลาดโลก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและกิจกรรมทางการเงินต่างๆ เสียสมดุล
โดยทฤษฎีแล้ว ดุลชำระเงินของทุกประเทศที่ขาดดุลต้องมีมูลค่าเท่ากับดุลชำระเงินของทุกประเทศที่เกินดุล ดังนั้นหากหลายประเทศพยายามเพิ่มตัวเลขเกินดุล หรือสถาบันการเงินเรียกร้องให้ประเทศขาดดุลปรับปรุงดุลชำระเงินของตนเองให้ดีขึ้น ตัวเลขขาดดุลของประเทศที่เหลือก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
"ในกรณีที่เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองหลัก หากประเทศที่เหลือทั่วโลกพยายามเพิ่มตัวเลขเกินดุล รายได้ของทั่วโลกก็จะลดลง เว้นแต่ว่าสหรัฐจะยอมเป็นประเทศเดียวที่ขาดดุล" รายงานระบุ
ในอีกด้านหนึ่ง หากนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวมากเกินไปในขณะที่ประเทศอื่นทั่วโลกไม่ต้องการครอบครองเงินดอลลาร์ รายได้ของทั่วโลกก็จะลดลงเช่นกัน
"ไม่ว่ากรณีไหนก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้ระบบการเงินขาดความสมดุล อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศขาดเสถียรภาพ และทำลายความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรอง" รายงานระบุ