นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบแผนบริหารจัดการหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 53(ต.ค.52-30 ก.ย.53)วงเงิน 1.637 ล้านล้านบาท แยกเป็นวงเงินกู้ใหม่ 8.44 แสนล้านบาท วงเงินกู้เพื่อการบริหารหนี้ 7.92 แสนล้านบาท
แผนการบริหารจัดการหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 53 แยกเป็นการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล เป็นการกู้เงินใหม่ 3.5 แสนล้านบาท วงเงินบริหารหนี้ 3.23 แสนล้านบาท รวมเป็น 6.73 แสนล้านบาท, การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน วงเงินบริหารหนี้ 1.39 แสนล้านบาท,
การบริหารและจัดการเงินกู้ เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงินกู้ใหม่ 3.2 แสนล้านบาท, การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ วงเงินกู้ใหม่ 5.6 หมื่นล้านบาท วงเงินบริหารหนี้ 2.32 แสนล้านบาท รวมเป็น 2.88 แสนล้านบาท, การก่อหนี้ต่างประเทศ วงเงินกู้ใหม่ 1.18 แสนล้านบาท และ การบริหารหนี้ต่างประเทศ วงเงิน 9.8 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินเพื่อรองรับการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 53 ในส่วนของการกู้เงิน เพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและอื่นๆ ภายใต้แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 50,000 ล้านบาท อนุมัติการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ ของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 53
อนุมัติให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆของการกู้เงินและการค้ำประกันแต่ละครั้งตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 53 แต่หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองให้ดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและความจำเป็น และอนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินธุรกรรมเพื่อการบริหารความเสี่ยงหนี้ของรัฐบาล รวมทั้งให้ รมว.คลัง หรือผู้ที่ รมว.คลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินหรือการค้ำประกันเงิน
ทั้งนี้ การดำเนินการตามแผนบริหารจัดการหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 53 อยูภายใต้การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 53 ขยายตัว 2.5% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% และสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นปีงบประมาณ 53 อยู่ที่ 52.38%ต่อจีดีพี ภาระหนี้ต่องบประมาณอยู่ที่ 12.61%