เศรษฐกิจนิวซีแลนด์หลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี หลังทางการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่ขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส เพราะได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายผู้บริโภคและการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำนักงานสถิตินิวซีแลนด์เผยว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสสองขยายตัว 0.1% หลังจากที่ติดลบ 0.8% ในไตรมาสแรก และยังสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวลง 0.2% ขณะที่ผู้ว่าแบงก์ชาตินิวซีแลนด์คาดว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2 จะหดตัว 0.1% ก่อนจะขยายตัว 0.1% ในไตรมาส 3 ส่วนกระทรวงคลังคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของนิวซีแลนด์จะสิ้นสุดลงในไตรมาส 2
ด้านเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่านายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์อาจขึ้นอัตราดอกบี้ยเร็วกว่าเดิม หลังจากที่เคยกล่าวถึงความจำเป็นในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ไปจนถึงปลายปีหน้า
"เราเห็นถึงขอบเขตการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อการกำหนดนโยบายทางการเงินในช่วงครึ่งปีหลัง" เบอร์นาร์ด ดอยล์ นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ เจบีแวร์ กล่าว "เรายังเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีหน้าหรือไม่ก็ก่อนหน้านั้น"
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:45 น.ตามเวลาเวลลิงตัน เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เคลื่อนไหวที่ระดับ 72.83 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ โดยก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีนั้น สกุลเงินดังหล่าวแข็งค่าขึ้นสูงสุดที่ 73.12 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 71.94 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ทั้งนี้ จีดีพีนิวซีแลนด์เริ่มทรุดตัวลงตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว หลังจากที่นายบอลลาร์ดปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2550 เพื่อชะลอความร้อนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์และการใช้จ่ายผู้บริโภคอันเป็นผลจากการปล่อยเงินกู้จำนวนมาก