กลุ่มผู้ส่งออกจีนเรียกร้องรัฐบาลชะลอเงินหยวนแข็งค่า แม้ยอดส่งออกส่อแววฟื้นตัว

กลุ่มผู้ส่งออกของจีนซึ่งเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่เซี่ยงไฮ้ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน แม้ว่าการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศจะเริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัวแล้วก็ตาม

เฉิน เตหมิง รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวเมื่อเดือนก.ค.ว่า การส่งออกของจีนคาดว่าจะชะลอตัวในระดับที่น้อยลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และย้ำว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลได้คงค่าเงินหยวนไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปมากนักเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์มานับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551 เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มผู้ผลิตของจีน

บลูมเบิร์กรายงานว่า บรูซ ชาว ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เจียงซู ไทกัง เทียนเฉิน เทรเซอรี ผู้ผลิตม่านไม้ไผ่ซึ่งยอดขายหดตัวลงไปถึง 20% แล้วในปีนี้ กล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนควรจะมีเสถียรภาพ และเราก็ไม่รู้ว่ากิจการจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่เมื่อใด เมื่อวานนี้ ขณะที่ยืนอยู่ที่บู๊ธนานถึงกว่า 5 ชั่วโมงที่งานแสดงสินค้า International Sourcing Fair ในเซี่ยงไฮ้นั้น ไม่มีผู้ซื้อต่างชาติรายใดเข้ามาที่บู๊ธของตนเองเลย

ทางด้านเจอร์เกน มาร์การ์ด ประธานสมาคมบริหารวัตถุ ซื้อ และลอจิสติคส์ และรองประธานของบริษัท บอช เร็กซ์รอท กล่าวว่า งานปีนี้ก็มีบริษัทเอกชนของเยอรมนีเพียง 20 เจ้าเท่านั้นที่มาร่วมงาน ขณะที่ปีที่แล้วบริษัทของเยอรมนีมาร่วมงานภถึง 40 ราย และยอดสั่งซื้อของบริษัทในจีนก็ลดลงไป 30% แล้วในปีนี้

เมื่อเวลา 11.37 น.ตามเวลาท้องถิ่น เงินหยวนซื้อขายอยู่ที่ระดับ 6.8254 หยวนต่อดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อวานนี้ที่ 6.8269 หยวนต่อดอลลาร์ โดยเงินหยวนแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 21% ในช่วง 3 ปี หลังจากที่ได้ยกเลิกการผูกติดเงินหยวนกับเงินดอลลาร์เมื่อเดือนก.ค. 2548

สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า เงินหยวนอาจจะแข็งค่าขึ้น 24% แตะ 5.5 หยวนต่อดอลลาร์ภายในปี 2558 เนื่องจากยอดขายของจีนในต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีหน้า และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็คงจะผลักดันให้เงินหยวนแข็งค่า โดยการส่งออกของจีนร่วงลงไป 23.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับระดับปีที่แล้ว