นางหู เสี่ยวเหลียน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนบริหารความมั่งคั่ง (SWF) ข้ามชาติเพื่อลงทุนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตการณ์การเงินระลอกใหม่
"ในที่ประชุม G20 ครั้งนี้ จีนจะเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุน SWF ข้ามชาติเพื่อลงทุนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพื่อช่วยให้ภูมิภาคแห่งนี้กลายเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ขยายตัว นอกจากนี้ จีนจะเน้นย้ำเรื่องการสนับสนุนให้ทั่วโลกใช้สกุลเงิน SDR (special drawing right) แทนค่าเงินดอลลาร์" นางหูกล่าว
SDRเป็นสกุลเงินหลักของไอเอ็มเอฟ โดยเป็นเกณฑ์วัดน้ำหนักทางเศรษฐกิจของชาติสำคัญๆที่เป็นสมาชิกของไอเอ็มเอฟ จากนั้นนำไปตีมูลค่าใหม่ให้อยู่ในรูปของค่าเงินเพื่อจะนำมาอ้างอิงในยามที่ชาติสมาชิกต้องการกู้เงิน หรือนำเงินไปซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราระหว่างประเทศ
รองผู้ว่าแบงก์ชาติจีนยังกล่าวด้วยว่า วิกฤตการณ์การเงินในปัจจุบันเป็นผลมาจากความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ การที่ประเทศเกิดใหม่ในเอเชียแทบไม่มีทางเลือกด้านการลงทุนนอกเหนือจากการลงทุนในดอลลาร์ ทำให้เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ประเทศในเอเชียก็ขาดทุนด้วย
นอกจากนี้ นางหูกล่าวว่า "การที่ระบบการเงินโลกยังย่ำเท้าอยู่กับที่ ทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตการณ์อยู่ตลอดเวลา หากปัจจัยพื้นฐานที่รวมถึงระบบการเงินระหว่างประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไข เศรษฐกิจโลกก็อาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์เหมือนในปี 2547 และอาจเผชิญกับวิกฤตการณ์ค่าเงินเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา"
ขณะเดียวกันนางหูได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินในสหรัฐว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำได้ช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากวิกฤตการณ์ในตลาดซับไพร์มได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย บลูมเบิร์กรายงาน