ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง หลังยอดขายบ้านสหรัฐร่วงหนุนนลท.แห่ถือเงินดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Friday September 25, 2009 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากยอดขายบ้านที่ร่วงลงเกินคาดในสหรัฐทำให้นักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการใช้มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดการเงิน ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้แห่ซื้อดอลลาร์ด้วย

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.48% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4658 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4729 ยูโร/ดอลลาร์ และขยับขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.350 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 91.300 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0298 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.0270 ฟรังค์/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 1.88% เมื่อเทียบกับปอนด์ที่ 1.6039 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6346 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.55% แตะที่ 0.8650 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.8698 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.35% แตะที่ 0.7167 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7192 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ซามาร์จิท ชานการ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท BNY Mellon Corp ในเมืองบอสตันกล่าวว่า นักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์สหรัฐหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.ร่วงลง 2.7% แตะระดับ 5.10 ล้านยูนิต จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 5.24 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.35 ล้านยูนิต

"ความรู้สึกไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนเลือกที่จะถือครองดอลลาร์ เพราะเชื่อว่าในยามที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเปราะบางเช่นนี้ การถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด" ชานการ์กล่าว

สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะยุติการซื้อพันธบัตรเมื่อแผนการเข้าซื้อพันธบัตรในปัจจุบันซึ่งมีมูลค่า 1.75 แสนล้านปอนด์ (2.86 แสนล้านดอลลาร์) เสร็จสิ้นลง เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยแล้ว

CBI คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อังกฤษมีแนวโน้มขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 ปีนี้ สวนทางกับที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 0.3% และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า

นอกจากนี้ สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ซึ่งได้จากการสำรวจผู้บริหาร 7,000 ราย เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 91.3 จุดในเดือนก.ย. จากระดับ 90.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้วและเป็นการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน หลังจากที่ดัชนีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีที่ 82.2 จุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ