ยอดขายยานยนต์ของจีนในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น 35% จากปี 2551 แตะระดับ 12.6 ล้านคัน เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการจัดสรรเงินอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของรัฐบาล
ซู ฉางหมิง นักวิเคราะห์จากศูนย์ข้อมูลของรัฐสภาจีนระบุว่า ในเดือนก.ย. ยอดขายของจีนจ่อแตะระดับ 1.25 ล้านคัน และบรรดาผู้ผลิตยานยนต์กำลังเร่งให้จีนเพิ่มมาตรการลดหย่อนภาษี และจัดสรรเงินอุดหนุนที่กำลังจะหมดสัญญาในปลายปีนี้
"หากรัฐบาลขยายนโยบายไปจนถึงปีหน้า การเติบโตอย่างรวดเร็วของยอดขายยานยนต์ในจีนจะเป็นไปอย่างยั่งยืน ในทางกลับกัน หากรัฐบาลไม่ทำอะไรยอดขายจะซบเซาลง และยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ถึงตัวเลขการทรุดตัว" ซูระบุ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ปรับลดภาษียอดขายยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า 1.6 ลิตร และจ่ายเงินอุดหนุนยอดขายรถในชนบทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม ซึ่งซูคาดว่า ยอดขายรถยนต์โดยสารในปีนี้จะพุ่งขึ้นแตะที่ 7.9 ล้านตัน ด้วยอัตราการขยายตัว 38.7% จากปี 2551
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า จีนมียอดขายยานยนต์มากที่สุดของโลกในเดือนส.ค.ด้วยจำนวนยอดขายที่ 8.33 ล้านคัน เมื่อเทียบกับจำนวน 7.1 ล้านคันในสหรัฐ
โดยยอดขายรถของสหรัฐในเดือนส.ค.ขยายตัวถึง 1.3 ล้านตัน หลังจากที่รัฐบาลประกาศมาตรการนำรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Cash for Clunkers) แต่นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจจะลดลงอย่างฮวบฮาบ หลังจากมาตรการนี้สิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังจับตามองการกระตุ้นรายได้จากยอดขายยานยนต์ของจีน ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ซบเซาทั่วโลก ซึ่งซูไม่ได้แสดงความวิตกกังวลในกรณีที่ผลผลิตจีนจะสูงเกินความต้องการ แม้ว่ารัฐบาลจะยุติการจัดสรรเงินช่วยเหลือ เพราะยอดขายยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างน้อยถึง 15% ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า