นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์พลังงานของโลกและประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงได้เร่งรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันลดการใช้พลังงานทุกวิถีทางอย่างเร่งด่วน ด้วยการมุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์และประหยัดพลังงานและสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับโครงการส่งเสริมการใช้หลอดผอมใหม่ T5 เบอร์ 5 ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จัดทำขึ้นนี้ถือเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ก่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะหากผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งในภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ร่วมกันใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ T5 ขนาด 28 วัตต์ แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ T8 ขนาด 36 วัตต์ ทั้งประเทศจำนวน 200 ล้านหลอด จะสามารถส่งผลให้เกิดการลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 8,708 ล้านหน่วย/ปี หรือลดค่าใช้จ่ายได้ 26,124 ล้านบาท/ปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 4.4 ล้านตัน/ปี
นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.ได้ขอความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ให้ร่วมกันผลักดันให้เกิดการใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ T5 ในผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดย กฟผ.จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการสมัครเข้าร่วมโครงการของกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กนอ.ทั่วประเทศ เข้าร่วมการเปลี่ยนหลอด T5 เบอร์ 5 เป็นจำนวนประมาณ 2 ล้านหลอด จะสามารถดำเนินการให้ประเทศเกิดการลดพลังงานไฟฟ้าได้ 116 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 348 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ได้ 59,000 ตัน
นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการ กนอ. ระบุว่า กนอ.และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ 32 แห่งทั่วประเทศ จะให้ความร่วมมือเข้าร่วมเป็นเครือข่ายลดโลกร้อนด้วยหลอดผอมใหม่ T5 พร้อมกันนี้จะหาผู้เข้าร่วมโครงการฯ โดยร่วมมือกับ กฟผ.เชิญชวนให้ผู้ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 3,000 แห่ง เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเบื้องต้นกำหนดจัดสัมมนาร่วมกันในเขตภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ระหว่างเดือนมิ.ย.-ต.ค.52 รวม 6 ครั้ง ซึ่งได้มีการจัดสัมมนาร่วมกันไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง
โครงการ "เครือข่ายร่วมลดโลกร้อนด้วยหลอดผอมใหม่ T5 เบอร์ 5" ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีเป้าหมายรณรงค์ส่งเสริมให้อาคารภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนมาใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ขนาด 28 วัตต์ หรือหลอดผอมใหม่เบอร์ 5 ทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ขนาด 36 วัตต์ ทั่วประเทศ 83 ล้านหลอด ภายในปี 56 ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้ปีละประมาณ 4,842 ล้านหน่วย หรือ 14,526 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงปีละประมาณ 2.4 ล้านตัน