สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งแกร่งขึ้นในวันนี้ โดยเงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่ามากที่สุดหลังจากธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่ายอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดร่วงลงในเดือนส.ค. และคาดว่าจะร่วงลงอีกในปลายปีนี้
ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้ในเดือนส.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 2.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับระดับ 4.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งตัวเลขที่ลดลงอย่างหนักครั้งนี้มีสาเหตุจากการส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้ยอดเกินดุลบัญชีโดยรวมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 2.82 หมื่นล้านดอลลาร์ บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.24 น.ตามเวลากรุงโซลในวันนี้ เงินวอนพุ่งขึ้น 0.8% แตะที่ 1,186.35 วอน/ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันดีดขึ้น 0.3% แตะที่ 32.385 ดอลลาร์ไต้หวัน/ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินริงกิตอ่อนตัวลง 0.2% แตะที่ 3.4863 ริงกิต/ดอลลาร์
ค่าเงินเยนร่วงลงแตะระดับ 90.07 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวานนี้ที่ตลาดนิวยอร์ก 89.63 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินบาทของไทยทรงตัวอยู่ที่ 33.61 บาท/ดอลลาร์ เงินเปโซฟิลิปปินส์แข็งขึ้น 0.1% แตะที่ 47.585 เปโซ/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งขึ้น 0.2% แตะที่ 1.4185 ดอลลาร์สิงคโปร์/ดอลลาร์สหรัฐ และเงินหยวนของจีนทรงตัวอยู่ที่ 6.8276 หยวน/ดอลลาร์
เจพีมอร์กแกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า เงินวอนซึ่งก่อนหน้านี้เป็นสกุลเงินที่อ่อนแอที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายนั้น มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีกเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าเทรดในตลาดหุ้นเกาหลีใต้มากที่สุดในรอบ 10 ปี โดยจนถึงขณะนี้คำสั่งซื้อของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเกาหลีใต้มีมูลค่าสูงถึง 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์ หนุนดัชนีคอมโพสิตทะยานขึ้น 50%