นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เผยเหตุผลที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ตัดสินใจให้ใช้แนวทางการเช่าสำหรับโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงนั้น เนื่องจากผลศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ระบุว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่าการซื้อ
"เหตุผลเพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่า รถหมุนเวียนถ้าซื้อต้องเผื่อไว้อีก และดูจากประวัติของ ขสมก.แล้วค่าซ่อมบำรุงมักจะแพงกว่า" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมต้องดูแลไม่ให้พนักงาน 6-7 พันคนที่จะเข้าโครงการเออร์รี่รีไทร์ส่งผลกระทบต่อโครงการนี้ ต้องมีความชัดเจนเรื่องสถานที่ตั้งอู่จอดรถ และการตั้งสถานีจ่าย NGV ที่สามารถรองรับได้เพียงพอ ซึ่งได้กำชับให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส
ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบในหลักการโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงด้วยวีธีการเช่าจำนวน 4 พันคัน โดยรถโดยสารประจำทางที่จะเช่าในโครงการดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ประกอบขึ้นในประเทศ ซึ่งจะมีเวลาในการดำเนินโครงการ 10 ปี และใช้งบประมาณทั้งสิ้น 6.6 หมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบโครงการดังกล่าวแล้วหลังพิจารณาผลการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เสนอเข้ามา
"ที่ประชุมฯ เห็นชอบตามที่ทางสภาพัฒน์ได้เสนอมาว่าแนวทางการเช่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกลับไปพิจารณาในรายละเอียดด้านต่างๆ เช่น การจัดหาสถานที่เพื่อใช้เป็นอู่จอดรถ, แผนเออร์รี่รีไทร์พนักงาน ขสมก.กว่า 7 พันคน และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส หลังจากนั้นให้กระทรวงคมนาคมเสนอกลับมาให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาอีกครั้ง