นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้อนุมัติในหลักการการจัดสรรเงินรางวัล(เงินโบนัส)สำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 52 วงเงิน 6,835 ล้านบาท
ทั้งนี้ ครม. ขอให้กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ร่วมกันวางระบบและพิจารณาการใช้เงินที่เหลือจ่ายในการจัดสรรเงินเพื่อจ่ายโบนัสให้กับข้าราชการกว่า 1.5 ล้านคน เนื่องจากไม่ได้ตั้งงบประมาณในปี 53 ไว้
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้ว่าครม.จะเห็นชอบให้จ่ายโบนัสข้าราชการ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถจ่ายเงินโบนัสในปีงบประมาณ 52 ได้หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้มีการตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายไว้ในงบประมาณปี 53
ขณะที่เงินงบประมาณเหลือจ่ายในปีงบประมาณ 52 จำนวน 5,000 ล้านบาทนั้น ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินคงคลัง เมื่อมีเงินเหลือจ่ายจะต้องนำส่งคืนคลังครึ่งหนึ่ง ดังนั้น จะเหลือเงินที่สามารถนำไปใช้จ่ายเป็นเงินโบนัส เพียง 2,500 ล้านบาท ดังนั้น ครม.จึงให้สำนักงบประมาณ และ ก.พ.ร.ไปร่วมกันวางระบบและหาวิธีการนำเงินเหลือจ่ายมาจ่ายเป็นเงินโบนัสข้าราชการ
“เรามีเงินเหลือจ่ายประจำปี 51 ของส่วนราชการต่าง ๆ ที่กรมบัญชีกลางจัดทำไว้ และ ก.พ.ร.ได้เปรียบเทียบกับโบนัสปี 51 พบว่า อาจจะมีข้อจำกัดในกรณีที่บางส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดมศึกษาไม่มีงบประมาณเหลือจ่ายประจำปี 52 หรือมีแต่ไม่เพียงพอ แต่ประเด็นคือรัฐบาลไม่มีเงินมากขนาดนั้นและทำให้ ก.พ.ร.จะต้องแบกภาระงบประมาณทุกปี และอาจจะมากถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี”นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ก.พ.ร.มีข้อเสนอว่า เพื่อไม่ให้การจ่ายเงินโบนัสข้าราชการ เป็นภาระเงินงบประมาณรัฐบาลทุกปี ที่คาดว่าในอนาคตจะสูงถึง 10,000 ล้านบาท จึงได้เสนอให้ส่วนราชการมีการประหยัดเงินงบประมาณด้านต่างๆ และนำเงินดังกล่าวมาจัดสรรจ่ายเป็นเงินโบนัสแทน แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าจะให้นำงบประมาณที่ส่วนราชการประหยัดได้นำมาร่วมเป็นเงินสะสมก่อนจัดสรรเป็นเงินโบนัส หรือ ให้แต่ละส่วนราชการนำงบประมาณที่ประหยัดได้ จัดสรรเป็นเงินโบนัสกันเอง
ทั้งนี้ รวมถึงข้อเสนอที่ว่าเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น และหากรัฐบาลมีการจัดทำงบประมาณกลางปีงบประมาณ 53 ขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณจากงบกลางปีมาจัดสรรเป็นเงินโบนัสให้ข้าราชการด้วย ซึ่ง ที่ประชุม ครม.วันนี้ ไม่ได้มีการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว