ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าอาจเข้าแทรกแซงตลาดหากเงินเยนแข็งค่ามากเกินไป ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4577 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4619 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.100 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.600 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0364 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0323 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.45% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5957 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5885 ปอนด์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.24% แตะที่ 0.8705 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8726 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.35% แตะที่ 0.7133 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7158 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ดานิกา แฮมป์ตัน นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านปริวรรตเงินตราจากแบงค์ ออฟ นิวซีแลนด์ ในเมืองเวลลิงตันกล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐประจำเดือนก.ย.ร่วงลงแตะ 53.1 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 54.5 จุด และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 57 จุด
ขณะเดียวกันดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าอาจเข้าแทรกแซงตลาดหากเงินเยนแข็งค่ามากเกินไป นายอิจิ ฮิราโนะ อดีตกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัท โตโยต้า ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส บริษัทในเครือของโตโยต้า มอเตอร์ คาดการณ์ว่า ค่าเงินเยนจะอ่อนตัวลงในระยะยาวเนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มอ่อนแอ
ค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนในสัปดาห์นี้ หลังจากนายฮิโรชิสะ ฟูจิอิ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการอ่อนค่าของเงินเยนและการแทรกแซงตลาดโดยปราศจากความรอบคอบ ขณะที่พรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกล่าวว่า การแข็งค่าของเงินเยนจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน เพราะจะทำให้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูกลง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.ย. กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 และสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.ย. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนส.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย.จะลดลง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากดิ่งลง 216,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 9.8% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 9.7% ในเดือนส.ค.