กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า ตัวเลขขาดทุนของสถาบันการเงินทั่วโลกจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทั่วโลกใช้มาตรการที่แข็งแกร่งเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการเงิน
รายงานภาวะเสถียรภาพระบบการเงินโลก (Global Financial Stability Report หรือ GFSP) รอบครึ่งปีของไอเอ็มเอฟระบุว่า ตัวเลขขาดทุนของสถาบันการเงินทั่วโลกระหว่างปี 2550 - 2553 ลดลงจากระดับคาดการณ์ที่ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในรายงานฉบับก่อนหน้านี้ที่เปิดเผยในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
โดยรายงาน GFSR เดือนเม.ย.ระบุว่า การใช้นโยบายต่างๆอย่างเป็นระบบ ตลอดจนการลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง รวมทั้งกระตุ้นผลกำไรการออกสินเชื่อที่ยั่งยืนทำให้เราต้องปรับประมาณการยอดปรับลดมูลค่าทางบัญชีของธนาคารและสถาบันการเงินลงราว 6 แสนล้านดอลลาร์ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4 ล้านล้านดอลลาร์มาเป็น 3.4 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟเตือนว่า แม้ทางหน่วยงานจะปรับลดคาดการณ์ตัวเลขขาดทุนที่ลดลง แต่ภาวะขาลงทางเศรษฐกิจที่ฝังรากลึกและการฟื้นตัวที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าจะบั่นทอนการดำเนินธุรกิจด้านสินทรัพย์ภาคธุรกิจการเงิน และสถาบันการเงินจะยังเผชิญปัญหา 3 ประการ ได้แก่ การปรับโครงสร้างฐานเงินทุน การสร้างความแข็งแกร่งของรายได้ และการพึ่งพาตัวเองด้วยการเลี่ยงขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล
นอกจากนี้ แม้ว่าความเสี่ยงในระบบการเงินจะเริ่มเบาบางลง แต่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายยังคงต้องแบกรับภาระที่หนักหน่วง รวมถึงการสร้างหลักประกันการขยายตัวในตลาดสินเชื่อเพื่อสร้างรากฐานการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อยุติการใช้มาตรการกระตุ้นต่างๆ
สำหรับแนวทางในระยะกลางนั้น ทางไอเอ็มเอฟแนะว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโนบายควรหาทางปรับปรุงการใช้ระเบียบการในตลาด แก้ปัญหาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงิน รวมถึงกำหนดนโยบายการดำเนินงานที่รัดกุม และสอดส่องดูแลสถาบันการเงินทั่วโลกให้เข้มงวดมากขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน