บรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp : FDIC) คาดว่าจำนวนธนาคารล้มละลายในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนประกันเงินฝากของ FDIC พุ่งเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า และจะทำให้ FDIC ประสบภาวะขาดดุลบัญชีในเดือนนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นที่ 7 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ FDIC วางแผนที่จะเพิ่มค่าธรรมเนียมพิเศษจากธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศเพื่อเพิ่มเงินทุนในบัญชีของ FDIC จำนวน 5.6 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการล้มละลายของธนาคารโคโลเนียล แบงค์กรุ๊ป และแนวโน้มจำนวนธนาคารล้มละลายคาดว่าจะสูงขึ้นอีกในสหรัฐ ทำให้เม็ดเงินในบัญชีของ FDIC ลดน้อยลง
นางเชียลา แบลร์ ประธาน FDIC กล่าวกับเอพีว่า "งบดุลบัญขีของ FDIC เริ่มหดตัวลง ทำให้คณะกรรมการบอร์ดของ FDIC เตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมหลังจากการล้มละลายของธนาคารโคโลเนียลทำให้ FDIC มีต้นทุนการประกันเพิ่มขึ้นอีก 2.8 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ มีรายงานว่าธนาคารคอรัส แบงค์แชร์ส และธนาคารการันตี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อาจล้มละลาย ขณะที่เม็ดเงินทุนในบัญชีของ FDIC ในไตรมาสแรกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี"
การล้มละลายของธนาคาร 95 แห่งในสหรัฐปีนี้ส่งผลให้เงินทุนในบัญชีของ FDIC หดตัวลงอย่างรุนแรง ทำให้ FDIC ต้องประกาศเรียกเก็บค่าธรรมเนียมฉุกเฉิน 5 เซนต์สำหรับสินทรัพย์ทุกๆ 100 ดอลลาร์เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
FDIC รายงานว่า ทางการสหรัฐได้ดำเนินการยึดกิจการธนาคารพาณิชย์อีก 5 แห่งในประเทศ ซึ่งธนาคารเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้จำนวนธนาคารที่ถูกยึดในสหรัฐปีนี้พุ่งขึ้นเป็น 69 ราย และคาดว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก