ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่หดตัวน้อยกว่าคาด ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของญี่ปุ่นและจีน รวมทั้งการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์ยอดขาดทุนของสถาบันการเงินทั่วโลก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นและดอลลาร์มีความน่าสนใจน้อยลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.40% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4641 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4583 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.43% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.700 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.090 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.06% แตะที่ 1.0356 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0362 ฟรังค์/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.19% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5988 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5958 ปอนด์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.47% แตะที่ 0.8836 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.8708 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.19% แตะระดับ 0.7231 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7146 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
วาสซิล เซเรเบรียคอฟ นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ในนิวยอร์กกล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเพียง 0.7% ในช่วงไตรมาสสอง ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะติดลบ 1.1% นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่ชี้ว่าภาวะถดถอยกำลังสิ้นสุดลงแล้ว
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการที่ไอเอ็มเอฟเปิดเผยในรายงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยในรายงานภาวะเสถียรภาพระบบการเงินโลก (Global Financial Stability Report หรือ GFSP) รอบครึ่งปีว่า ตัวเลขขาดทุนของสถาบันการเงินทั่วโลกจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทั่วโลกใช้มาตรการที่แข็งแกร่งเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการเงิน
ขณะที่สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่าผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.8% จากเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 หลังผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมเหล็กและยานยนต์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวขยายตัวใกล้กับระดับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.9%
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ไต่ระดับขึ้น 0.9% จากเดือนก.ค.ที่ลดลง 0.9% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวขยายตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยยอดการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น 2.4% และยอดขายในร้านอาหารขยายตัว 1.9%