สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐ เปิดเผยดัชนีธุรกิจเขตชิคาโกร่วงเกินคาดสู่ระดับ 46.1 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงการหดตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าว ขณะที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่าภาคเอกชนปรับลดการจ้างงานลง 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยในวันนี้บ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างชะลอตัว ท่ามกลางบรรยากาศภาคธุรกิจที่ซบเซาเกินคาด และรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่บ่งชี้ว่านายจ้างยังคงปรับลดพนักงานในเดือนก.ย.มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากความกังวลว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะสิ้นสุดลง ไม่ว่าจะเป็นโครงการนำรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (cash-for-clunkers) ที่เคยช่วยกระตุ้นยอดขายยานยนต์ของค่ายรถสหรัฐ นอกจากนี้ กำลังการผลิตที่สูงเกินพิกัดยังกดดันให้บริษัทต่างๆไม่ต้องการเปิดรับพนักงานใหม่ๆ หรือเพิ่มกำลังการผลิตจนกว่าจะเห็นถึงภาวะอุปสงค์ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังเป็นปัจจัยลบต่อตลาดวอลล์สตรีท โดยเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 29.92 จุด หรือ 0.3% แตะที่ระดับ 9,712.28 จุด ส่วนดัชนี Standard & Poor’s 500 ขยับลง 0.3% ปิดที่ระดับ 1,057.08 จุด
รอบ คาร์แนลล์ นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะมาตรการต่างๆเริ่มสิ้นสุดลง"
ด้านบิล กรอส นักวิเคราะห์จากแปซิฟิก เมเนจเม้นท์ โค คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัวที่ระดับ 1-2% และมีอัตราเงินเฟ้อในระดับอ่อนๆ