โตโยต้า มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถชั้นนำของญี่ปุ่นสามารถทำยอดขายรถในประเทศได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากรัฐบาลได้นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้เพื่อกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดขายรถในญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น หลังจากที่การให้เงินอุดหนุนจากทางรัฐบาลและมาตรการลดภาษีช่วยฟื้นความต้องการรถรุ่นใหม่ของโตโยต้า เช่น โตโยต้าพรีอุส และรถไฮบริดที่ขายดีจากค่ายฮอนด้า คือ ฮอนด้า อินไซท์ ในเดือนก.ย.เพียงเดือนเดียว ฮอนด้าสามารถยอดขายเพิ่มขึ้น 15% ส่วนนิสสัน มอเตอร์ ทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 3.7%
โยชิอะกิ คาวาโน นักวิเคราะห์บริษัทซีเอสเอ็ม เวิลด์ไวด์ ที่ปรึกษาด้านยานยนต์ กล่าวว่า ยอดขายรถของญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ปีหน้า ในช่วงสิ้นปีนี้ เราน่าจะได้เห็นอัตราการขยายตัวในระดับตัวเลข 2 หลัก
มาตรการกระตุ้นดีมานด์ของรัฐบาลที่เริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.นั้น ผู้บริโภคจะสามารถขอเงินอุดหนุนจำนวน 250,000 เยน หรือ 2,800 ดอลลาร์ หากผู้บริโภคซื้อรถใหม่จำนวน 1 คันแทนที่รถคันเก่าที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 13 ปี ส่วนผู้บริโภคที่ซื้อรถใหม่โดยไม่ขายรถคันเก่า จะได้รับเงินชดเชย 100,00 เยน โดยมาตรการให้เงินอุดหนุนนี้จะหมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่า มาตรการกระตุ้นดีมานด์จะทำให้ยอดขายรถเพิ่มขึ้นถึง 690,000 คันในปีงบประมาณ 2552 ซึ่งรถพลังงานไฟฟ้า รถไฮบริด รถพลังงานก๊าซธรรมชาติ และรถที่ใช้น้ำมันดีเซลบางส่วนก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะได้รับการยกเว้นภาษีซื้อและภาษีน้ำหนัก