กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดอัตราว่างงานที่พุ่งสูงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่เริ่มจะให้ผลลดลง จะฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีหน้า
โดยไอเอ็มเอฟระบุในรายงานประจำครึ่งปีว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.5% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัว 2.7% ในปีนี้ เทียบกับเมื่อเดือนกรกฎาคมที่คาดว่าจะเศรษฐกิจสหรัฐปีหน้าจะขยายตัวเพียง 0.8%
"เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น" ไอเอ็มเอฟระบุ "อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่พุ่งสูง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มให้ผลลดลง รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่อยู่ในภาวะซบเซา จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า"
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่และมาตรการลดภาษีให้ผู้ซื้อบ้านครั้งแรก ช่วยให้ภาคการผลิตและอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เชื่อว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน เนื่องจากอัตราว่างงานยังคงพุ่งสูงในขณะที่รายได้ก็ไม่กระเตื้องขึ้น
กระทรวงพาณิชย์รายงานเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.7% ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ส่วนอัตราว่างงานคาดว่าจะพุ่งเหนือ 10% ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ต่ำกว่าระดับ 1% ไปเกือบตลอดปีหน้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน