กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน จะเป็นไปอย่างเชื่องช้าในระยะใกล้ เนื่องจากธนาคารของประเทศเหล่านี้ยังต้องเดินหน้าแก้ไขหรือยกเครื่องระบบการเงิน
ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกรอบครึ่งปีที่มีการเผยแพร่วันนี้ ไอเอ็มเอฟได้ประเมินเอาไว้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนน่าจะขยายตัว 0.3% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัว 4.2% ในปีนี้ พร้อมระบุด้วยว่าถึงแม้ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2553 ครั้งล่าสุดนี้ จะดีขึ้นกว่าคาดการณ์เมื่อเดือนก.ค.ที่ว่าจะหดตัว 0.3% แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนยังอ่อนแอกว่าสหรัฐและญี่ปุ่นมาก
"จังหวะของการฟื้นตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงกดดันเศรษฐกิจของบางประเทศ โดยส่งผลให้ภาคการเงินยังคงตึงตัว นอกจากนี้ตลาดแรงงานที่ซบเซาก็เป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวเช่นกัน" ไอเอ็มเอฟระบุ ส่วนในระยะกลาง การขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากอุปทานที่ยังคงซบเซาและการปรับงบดุลที่ถ่วงอุปสงค์
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ธนาคารยุโรปไม่ได้ตระหนักถึงการแก้ไขและฟื้นฟูสินทรัพย์มากเท่ากับที่ธนาคารในสหรัฐตระหนัก พร้อมกับกล่าวว่า ธนาคารต่างๆของยุโรปจะต้องดิ้นรนไปอีกสักพัก เพราะแม้ผลประกอบการของธนาคารจะแข็งแกร่งขึ้นและสนับสนุนระดับเงินทุน แต่ผลประกอบการที่ดีขึ้นนี้ยังไม่สามารถชดเชยมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดลงได้ทั้งหมดในช่วงระยะเวลาอีก 18 เดือนข้างหน้า
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในยูโรโซน จะขยายตัวเพียง 0.3% ในปี 2553 หลังจากที่หดตัว 5.3% ในปี 2552 และคาดว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะขยายตัว 0.9% ในปี 2553 หลังจากที่ร่วงลง 2.4% ในปี 2552 โดยทั้งเยอรมนีและฝรั่งเศสได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการแล้วหลังจากที่ตัวเลขจีดีพีแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสองประเทศกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในไตรมาสสอง
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ภาวะถดถอยในเยอรมนีรุนแรงกว่าเนื่องจากประเทศพึ่งพาการส่งออกมาก ขณะที่ฝรั่งเศสได้รับผลกระทบเบาบางกว่าจากความไม่แน่นอนในการค้าโลก เนื่องจากฝรั่งเศสทำการค้ากับต่างประเทศในระดับที่ต่ำกว่าและมีภาคสาธารณะที่ใหญ่กว่า
สำหรับประเทศอื่นๆในยูโนโซนนั้น ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า อิตาลีจะขยายตัว 0.2% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัว 5.1% ในปีนี้ ขณะที่สเปนจะยังคงประสบกับภาวะถดถอยต่อไปอีก หลังจากที่เกิดวิกฤตตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งคิดเป็น 20% ของอัตราว่างงาน โดยไอเอ็มเอฟประเมินว่าเศรษฐกิจสเปนจะหดตัว 0.7% ในปี 2553 หลังจากหดตัว 3.8% ในปี 2552
ในส่วนของประเทศยุโรปที่อยู่นอกยูโรโซนนั้น ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า อังกฤษจะเริ่มขยายตัวอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดการเงินมีเสถียรภาพและเงินปอนด์ที่อ่อนค่าเป็นผลดีต่อการส่งออก โดยคาดว่าอังกฤษจะขยายตัว 0.9% ในปี 2553 หลังจากหดตัว 4.4% ในปีนี้
ขณะที่ประเทศในแถบยุโรปตะวันออกนั้น ก็ได้รับการคาดหมายเช่นกันว่าจะกลับมาขยายตัวได้ในปี 2553 แต่ไอเอ็มเอฟยังเตือนว่า จังหวะของการฟื้นตัวจะช้ากว่าภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากการขาดแคลนเงินทุน
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปโดยรวมนั้น ไอเอ็มเอฟระบุว่า ความเสี่ยงเชิงลบเริ่มลดลง และมีโอกาสที่ผลที่ปรากฏแท้จริงจะดีกว่าคาดการณ์ โดยความเสี่ยงเชิงลบหลักๆจะเกี่ยวข้องกับภาคการเงินและภาคเอกชน ตลอดจนอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งทวีป
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ความเสี่ยงเชิงลบอาจลึกกว่าถ้าหากรัฐบาลยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเกินไป ถ้าปัจจัยการเมืองกดดันให้การแก้ไขภาคการเงินล่าช้า หรือถ้าเกิดการสะดุดในการประสานนโยบาย ขณะที่ความเสี่ยงเชิงบวกหลักๆได้แก่การค้าโลกและความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวเร็วเกินคาด