ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังประธานอีซีบีหนุนดอลล์แข็งค่า

ข่าวต่างประเทศ Friday October 2, 2009 07:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อทียบกับสกุลเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวว่าค่าเงินยูโรที่เคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในยุโรป

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4537 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4635 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5950 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6004 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังพุ่งขึ้น 0.47% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0407 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.0358 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.690 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.750 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.61% แตะที่ 0.8692 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8834 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.24% แตะที่ 0.7142 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7232 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ริชาร์ด แฟรงโควิช นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจาก Westpac Banking Corp ในนิวยอร์กกล่าวว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนัก หลังจากประธานอีซีบีกล่าวสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐว่า ความแข็งแกร่งของสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวว่าค่าเงินยูโรที่เคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินยูโรอย่างหนัก

นอกจากนี้ นายทริเชต์กล่าวว่ากลุ่มประเทศยุโรป 16 ประเทศที่ใช้เงินยูโร หรือ ยูโรโซน ควรยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเริ่มจ่ายหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นมากภายในปี 2554 เป็นอย่างช้าที่สุด โดยระบุว่าการถอดถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมีความจำเป็นต่อการฟื้นตัว และต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจให้ภาคธุรกิจและประชาชนว่ารัฐบาลจะไม่สร้างหนี้เพิ่ม

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาคองเกรสว่า เขามั่นใจว่าดอลลาร์ยังอยู่ในสถานะที่ปลอดความเสี่ยงและยังคงเป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลก

การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้มีขึ้นหลังจากคณะทำงานของบารัค โอบามามองว่าสถานะของสกุลเงินดอลลาร์ในตลาดโลกยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐระบุว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินที่สำคัญในระบบทุนสำรองของโลก และสหรัฐจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อให้ดอลลาร์ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินโลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานที่พุ่งสูงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่เริ่มจะให้ผลลดลง จะฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 1.5% ในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ