ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตที่ร่วงลงเกินคาด และตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าอัตราว่างงานที่พุ่งสูงจะฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 203.00 จุด หรือ 2.09% แตะที่ 9,509.28 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 27.23 จุด หรือ 2.58% แตะที่ 1,029.85 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 64.94 จุด หรือ 3.06% แตะที่ 2,057.48 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงขานรับรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงเกินคาด อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกไม่มากนักเนื่องจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ และนักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 70.82 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 70.83-70.30 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงวันแรกในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาโลหะมีค่า รวมถึงทองคำและโลหะเงิน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,000.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 8.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 998.80-1,011.10 ดอลลาร์ซึ่งเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อทียบกับสกุลเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวว่าค่าเงินยูโรที่เคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในยุโรป ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4537 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4635 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5950 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6004 ปอนด์/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 86.09 จุด แตะที่ 5,047.81 จุด หลังจากเคลื่อน ตัวในช่วง 5,043.98-5,164.37 จุด