แอร์บัส เอสเอเอส และแอร์บัส โค มีแนวโน้มต้องปรับลดกำลังการผลิตเครื่องบินลง หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าผู้ผลิตเครื่องบินทั้งสองแห่งจะมีจำนวนเครื่องบินรวมกันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยและภาวะขาลงด้านการท่องเที่ยว
ผลสำรวจนักวิเคราะห์และที่ปรึกษาด้านในภาคอุตสาหกรรมอากาศยานที่จัดทำโดยบลูมเบิร์กระบุว่า ผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ 2 แห่งของโลกอาจปรับลดกำลังการผลิตเครื่องบินรุ่นเล็กลงถึง 30% ในปี 2554 เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการผลิตเครื่องบินรุ่นดรีมไลเนอร์ 787 ของโบอิ้ง ซึ่งเลยกำหนดมานานกว่า 2 ปีแล้ว ทั้งนี้ เครื่องบินรุ่น 737 ของโบอิ้ง และรุ่น A320 ของแอร์บัสเป็นรุ่นที่ทำยอดขายได้สูงสุดของแต่ละบริษัท
คริส แทร์รี่ นักวิเคราะห์ด้านการบินอิสระจากลอนดอนกล่าวว่า "เรากำลังเดินทางเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกขณะ ซึ่งความเป็นจริงที่ว่าคือ ภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวมีกำลังการผลิตมากล้นตลาดในสถานการณ์เช่นนี้"
ทั้งนี้ โบอิ้ง ซึ่งครองตลาดมานานหลายสิบปีปรับกำลังการผลิตและลดการผลิตลงสูงสุด 30% ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ผ่านมา ขณะที่แอร์บัส ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 20% หลีกเลี่ยงที่จะการปรับลดการผลิตลง
นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า กำลังการผลิตเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 จะลดลงอย่างน้อย 9% ลงเหลือ 31 ลำต่อเดือนในปี 2554 ขณะที่นักวิเคราะห์ 4 รายคาดว่า โบอิ้งจะลดการผลิตรุ่น 737 ลง 10% เหลือ 28 ลำต่อเดือนในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม โฆษกของแอร์บัสกล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะลดการผลิตลงอีก หลังจากที่ตัดสินใจลดการผลิตเครื่องบินรุ่น A320 ลงจาก 36 ลำต่อเดือนเป็น 34 ลำต่อเดือน เช่นเดียวกับโฆษกของโบอิ้งที่เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะปรับลดกำลังการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 ของโบอิ้งที่มีอยู่ 31 ลำต่อเดือนในขณะนี้