นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจะเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และคาดว่าธนาคารกลางจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า เนื่องจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในประเทศกำลังขยายตัวขึ้น
ธนาคารกลางออสเตรเลียมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เนื่องจากดีมานด์ในภาคเอกชนฟื้นตัวขึ้นและดัชนีค่าเงินดอลลาร์เตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า อัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นในออสเตรเลียจะกดดันให้นายเกลน สตีเฟ่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้าด้วย สตีเฟ่น โรเบิร์ท นักวิเคราะห์จากบริษัท Nomura Australia กล่าวว่า "คณะกรรมการบอร์ดของธนาคารกลางออสเตรเลียยังไม่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอย่างยั่งยืน ตัวเลขเงินเฟ้อในระดับต่ำอาจทำให้ธนาคารกลางค่อยๆปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ขึ้นไปยืนอยู่ที่ระดับปกติ"
โรเบิร์ทคาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งอาจทำให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 25% ในปีนี้ แต่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่าขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออก อาทิ บีเอชพี บิลลิตัน
นายเว็น สวอน รมช.คลังออสเตรเลียคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้เศรษฐกิจออสเตรเลียอ่อนแอลงด้วย โดยคาดว่าอัตราว่างงานในประเทศจะพุ่งขึ้นแตะ 7% ในปีหน้า
ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของออสเตรเลียร่วงลง 1.4% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะขยับขึ้น 0.5% เนื่องจากภาคครัวเรือนลดการใช้จ่าย โดยยอดค้าปลีกที่ร่วงลงและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่า ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของออสเตรเลียแทบจะไม่ได้รับอิทธิพลจากมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์