กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์เห็นสอดคล้องกับรัฐบาลว่าช่วงไตรมาส 4/52 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นเป็นบวกที่ร้อยละ 1.45 เนื่องจากผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยจะได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่เสนอให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนและการจ้างงานมากกว่าการกระตุ้นผ่านการบริโภค พร้อมทั้งแสดงความเป็นห่วงเรื่องปัญหาการเมืองจะเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะตกต่ำต่อไป
"ร้อยละ 87.2 เห็นว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 4 จะขยายตัวดีกว่าช่วงเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 1.45" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ -0.7 ส่งผลให้เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.25 จนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ขณะที่เงินบาทจะแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 31.10-33.60 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังเสนอให้ภาครัฐใช้วิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนและการจ้างงานมากกว่าการกระตุ้นผ่านการบริโภคอันจะเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจมีความเข้มแข็งในระยะยาว อีกทั้งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
อย่างไรก็ดี การกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะต้องดำเนินไปด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังเป็นห่วงปัญหาด้านการเมืองที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการฉุดเศรษฐกิจให้อยู่ในภาวะตกต่ำ
โดยกรุงเทพโพลล์สำรวจความเห็นดังกล่าวจากนักเศรษฐศาสตร์จาก 14 องค์กรชั้นนำของไทย เรื่องคาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2552 ระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.ที่ผ่านมา