นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงการหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้(7 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เตรียมเสนอ 5 แนวทางในการแก้ปัญหาผลกระทบกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับ 76 โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
ข้อเสนอดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ภาครัฐควรหาข้อสรุปที่ชัดเจนกรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาและศาลปกครองตีความตามมาตรา 67 วรรค 2 ต่างกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการไปได้ในแนวทางเดียวกัน 2.ให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบกระบวนการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ว่ามีสิ่งใดต้องดำเนินการเพิ่มเติม โดยรัฐบาลควรเร่งดำเนินการให้ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำหนดประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงมีผลบังคับใช้ทันที หลังจาก รมว.อุตสาหกรรม ได้ลงนามไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา
3.เมื่อมีการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวแล้วทุกหน่วยงานต้องดำเนินตามกฎหมายครบถ้วนต่อไป เพราะจะทราบชัดเจนว่า 76 โครงการไม่ใช่ทั้งหมดที่จะก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็จะสามารถพิจารณาออกใบอนุญาตหรืออนุญาตให้ผู้ประกอบการเดินหน้าโครงการต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการพร้อมปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ที่จะกำหนดขึ้นภายหลัง ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามประกาศเขตควบคุมมลพิษและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมจะช่วยให้ศาลสามารถพิจารณาได้ว่าใน 76 โครงการที่ถูกศาลปกครองกลางระงับนั้นเข้าข่าย 8 ประเภทอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อชุมชนรุนแรงหรือไม่
4.ให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งออกกฎหมายลูกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 เพื่อให้มีความชัดเจนในเรื่องการทำผลการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพ(HIA)โดยไม่ต้องรอการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จต้องเร่งเรื่องนี้ให้ออกมาเร็วที่สุดก่อน และ 5.การอ้างอิงข้อมูลทางวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานภาครัฐควรมีการตรวจสอบและทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนและสื่อมวลชน อีกทั้งไม่ให้เกิดตื่นตระหนกเกินข้อเท็จจริง