เทสโก้ ร้านค้าปลีกใหญ่สุดของอังกฤษและใหญ่สุดเป็นอับดับ 3 ของโลก รายงานผลกำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 29 ส.ค. อยู่ที่ 1.027 พันล้านปอนด์ (1.64 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.3% จากระดับ 1.016 พันล้านปอนด์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 9.2% แตะ 2.778 หมื่นล้านปอนด์
แถลงการณ์ของเทสโก้ระบุว่า ผลประกอบการของบริษัทแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสตอบรับแบรนด์สินค้าลดราคา (Discount Brands) ของเทสโก้ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีก่อน และการลงทุนเพิ่มในโครงการ Clubcard โดยการเปิดตัวบัตรสมาชิกทำให้มีลูกค้าขาประจำเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เป็นเพียงลูกค้าขาจร
เซอร์ เทอร์รี ลีฮี ซีอีโอของเทสโก้ระบุว่า กลยุทธ์ที่เทสโก้นำมาใช้ช่วยให้ผลกำไรของบริษัทสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างน่าพึงพอใจในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทายเช่นนี้ พร้อมกับคาดด้วยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
"การฟื้นตัวกำลังเกิดขึ้น เห็นได้จากสัญญาณต่างๆจากภาคการเงินที่บ่งชี้ถึงเสถียรภาพ" เซอร์ลีฮีกล่าว "ขณะนี้ผู้บริโภคกำลังมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และพร้อมที่จะกลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง"
เทสโก้ระบุด้วยว่า บริษัทกำลังเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายหลักๆ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของบริษัทวิจัยนีลเซนที่ระบุว่า ยอดขายของเทสโก้ดีกว่าแซงส์บูรีเป็นครั้งแรกในรอบปี เมื่อช่วง 4 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. โดยเมื่อช่วงเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอย เทสโก้ได้เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งหลายราย อาทิ แซงส์บูรี และ แอสดา รวมถึงอัลดิ และ เน็ตโต