ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.หลายฝ่ายเห็นด้วยกับหลักการของร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ แต่ได้หารือกันอย่างกว้างขวางใน 2 ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดโทษทางอาญา ที่ให้ปรับไม่เกิน 1 พันบาท สำหรับผู้ซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และละเมิดเครื่องหมายการค้า เป็นการปรับโดยเจ้าพนักงานของรัฐ ไม่ต้องถึงกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ ซึ่งที่ประชุม ครม.มีข้อกังวลเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติ และความยุ่งยากในการจับกุม รวมถึงมองว่าโทษดังกล่าวไม่ควรเป็นโทษทางอาญา แต่ควรเป็นการลงโทษโดยให้บริการสังคมแทนการปรับเป็นเงิน
นอกจากนี้ เห็นว่าในร่างกฎหมายยังไม่มีการกำหนดแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานที่ราชการหรือวัดที่อนุญาตให้ใช้เป็นพื้นที่ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และละเมิดเครื่องหมายการค้า
รมช.พาณิชย์ คาดว่าจะนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวกลับเข้าสู่ ครม.อีกครั้งในเดือน พ.ย. ซึ่งการออกกฎหมายดังกล่าว ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่จัดทำกฎหมายในลักษณะดังกล่าว และจำเป็นต้องมีการพัฒนากฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ทันต่อการสถานการณ์