ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังออสเตรเลียขึ้นดบ.-ข่าวลืออาหรับยุติใช้เงินดอลล์ค้าน้ำมัน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 7, 2009 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากหนังสือพิมพ์อังกฤษรายงานว่ากลุ่มประเทศอาหรับเรียมยกเลิกการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.43% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4711 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4648 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.80% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.780 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.500 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.47% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0271 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0319 ฟรังค์/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.18% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5909 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5938 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.36% แตะที่ 0.8892 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8773 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.27% แตะที่ 0.7328 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7308 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะดอลลาร์ออสเตรเลียที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.25% จากเดิม 3.0% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3% ในการประชุมวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะค่อยๆชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมาย สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทะยานขึ้น 0.8% แตะระดับ 0.8841 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับก่อนที่ธนาคารกลางจะประกาศขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.8770 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศ G20 ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกในช่วงกว่า 1 ปีที่แล้ว โดยการปรับตัวขึ้นของตัวเลขจ้างงานเอกชน ยอดค้าปลีก และราคาบ้านในออสเตรเลีย รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางมองว่าเศษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งมากพอที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นไปอยู่ที่ระดับปกติ

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันหลังจากหนังสือพิมพ์ ดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษรายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่การธนาคารตะวันออกกลางและจีนว่า กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) เริ่มเจรจาร่วมกับจีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เพื่อยุติการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน โดยชาติอาหรับซึ่งเป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันกำลังมองหาลู่ทางที่จะเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินอื่นในตระกร้าเงิน รวมถึง สกุลเงินเยน หยวน ยูโร และทองคำ

อย่างไรก็ตาม นายมูฮัมหมัด อัล-จาสเซอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางซาอุดิอาระเบีย ยืนยันกับผู้สื่อข่าวที่เมืองอิสตันบูลว่า เขาไม่ได้เจรจาเรื่องการยกเลิกใช้สกุลเงินดอลลาร์ในการซื้อขายน้ำมันร่วมกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆและประเทศผู้นำเข้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ รวมถึงจีน ขณะที่นายฮิโรฮิสะ ฟูจิอิ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่ทราบเรื่องนี้เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ