ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หนุนทองคำปิดทะยาน $21.90

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 7, 2009 07:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสื่ออังกฤษตีข่าวว่ากลุ่มประเทศอาหรับเตรียมยุติการใช้สกุลเงินดอลลาร์ในการซื้อขายน้ำมัน และหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ย

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,039.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 21.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,016.60-1,045 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.295 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 76.00 เซนต์

ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,325.30 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 23.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 310.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์

ชิพ แฮนลอน นักวิเคราะห์จากบริษัท Delta Global Advisors Inc ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า "ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์เป็นตัวกำหนดความเคลื่อนไหวของทองคำในระยะนี้ การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ประเทศอื่นๆอาจขึ้นดอกเบี้ยด้วยยกเว้นสหรัฐ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก"

ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.25% จากเดิม 3.0% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3% ในการประชุมวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะค่อยๆชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

หนังสือพิมพ์ ดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษรายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่การธนาคารตะวันออกกลางและจีนว่า กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) เริ่มเจรจาร่วมกับจีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เพื่อยุติการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ทางกองทุนได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,098.07 ตัน ณ วันที่ 6 ต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ