บริษัทวิจัยคาดโตโยต้า มอเตอร์ ได้รับอานิสงส์จากการที่พานาโซนิคเดินเรื่องเทคโอเวอร์ซันโย อิเล็กทริค เนื่องจากความต้องการรถไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น และการขาดแคลนแบตเตอรี่ที่ใช้งานในรถอาจจะบีบให้บริษัทผู้ผลิตรถต้องแข่งกันหาแหล่งผลิตแบตเตอรี ซึ่งรถไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำมันอย่างพรีอุสค่ายโตโยต้านั้น ผู้ซื้อในญี่ปุ่นอาจจะไม่ต้องเข้าแถวรอนานอีกต่อไป หากการทำข้อตกลงเทคโอเวอร์ซันโยสำเร็จเรียบร้อย
โตโยต้าตั้งเป้าผลิตรถทุกรุ่นในเครือให้เป็นรถไฮบริดตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งการหาแบตเตอรี่อาจเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น หลังจากที่พาร์ทเนอร์ของบริษัทอย่างพานาโซนิคดึงซันโยเข้ามาเป็นบริษัทในเครือ
ทาเคชิ มิยาโอะ ผู้อำนวยการด้านเอเชียของบริษัทวิจัยด้านยานยนต์ คาร์โนรามา กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 หรือ 2555 เป็นต้นไป จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อช่วงชิงแบตเตอรี่ และสิ่งที่โตโยต้ากลัวมากที่สุดก็คือ บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่อาจจะมีอำนาจในการขายมากขึ้น
พานาโซนิคและซันโยครองสัดส่วนแบตเตอรี่ที่มีการใช้งานในรถไฮบริดทั่วโลกประมาณ 80%
บลูมเบิร์กรายงานว่า เจนเนอรัล มอเตอร์ส, ฮอนด้า มอเตอร์ และนิสสัน มอเตอร์ ต่างวางแผนที่จะเปิดตัวรถไฮบริดและรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ โดยจีเอ็มเองซื้อแบตเตอรี่จากบริษัท แอลจี เคม ของเกาหลีใต้ เพื่อป้อนสายการผลิตเชฟโรเล็ต โวลท์ ซึ่งมีกำหนดจำหน่ายปีหน้า ส่วนนิสสันก็มีธุรกิจร่วมทุนผลิตแบตเตอรี่กับเอ็นอีซี คอร์ป
โตโยต้า ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรถไฮบริดรายใหญ่สุดของโลก กำลังขยายขอบเขตการผลิตแบตเตอรี่ที่บริษัทร่วมทุนคือ พานาโซนิค เอ็นวี เอ็นเนอร์จี เนื่องจากดีมานด์รถพรีอุสที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มาซาตามิ ทากิโมโตะ อดีตรองประธานโตโยต้าเคยกล่าวกับผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า ในขณะนี้ เรามองว่าแบตเตอรี่ที่เราได้พัฒนาร่วมกับพานาโซนิคนั้นดีที่สุดและจะใช้แบตเตอรี่ที่เราผลิตเองต่อไป แต่ถ้ามีแบตเตอรี่ที่น่าสนใจจากบริษัทอื่นๆ เราก็อาจจะใช้แบตเตอรี่ของเจ้าอื่นด้วยเช่นกัน