เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) เผยการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงในการขายกิจการรถอเนกประสงค์ฮัมเมอร์ให้กับบริษัท เสฉวน เติ้งจง เฮฟวี อินดัสเทรียล แมชีนเนอรี ผู้ผลิตเครื่องจักรของจีนมูลค่าประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่คู่เจรจายังไม่สามารถสรุปข้อตกลงได้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทั้ง 2 บริษัทกำลังพยายามที่จะทำข้อตกลงให้ได้ในวันนี้ โดยจีเอ็มได้ประเมินว่า มูลค่าของแบรนด์จะอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์ตามเอกสารเรื่องการขอคุ้มครองสินทรัพย์จากการล้มละลายที่ได้มีการยื่นต่อศาล
จีเอ็มได้หลุดพ้นจากภาวะล้มละลายเมื่อวันที่ 10 ก.ค.พร้อมกับแผนการลดการทำธุริกจแบรนด์รถในเครือ 4 แบรนด์ในสหรัฐ ข้อตกลงในการขายแบรนด์รถแซทเทิร์นให้กับเพนสกี้ ออโตโมทีฟ กรุ๊ปนั้นคว้าน้ำเหลวไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ส่วนการขายแบรนด์ซ้าบ ออโตโมบิล ก็ยังคงมีความคืบหน้าอยู่ ในขณะที่บริษัทก็ยังคงหาทางขายกิจการปอนเทียคต่อไปเช่นกัน
การขายกิจการรถฮัมเมอร์นั้นจะทำให้ขบวนการปรับโครงสร้างตามแผนของจีเอ็มคืบหน้าขึ้น หลังจากที่ความพยายามในการขายบรนด์รถแซทเทิร์นให้กับเพนสเก้ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป ไม่ประสบความสำเร็จ สำหรับข้อตกลงที่จะทำกับเติ้งจงเองนั้นจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ด้วยเช่นกัน
โจเซฟ ฟิลิปปี ประธานออโต เทรนด์ส คอนซัลติ้ง อิงค์ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับจีเอ็มที่จะได้เงินสดส่วนหนึ่งไว้ในมือ จำนวนเงินที่ได้มาหมายความว่าบริษัทจะมีเงินสำรองมากขึ้นจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น
เติ้งจงมีฐานการดำเนินงานอยู่ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยบริษัทเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ว่า อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อแบรนด์ฮัมเมอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขายแบรนด์รถในเครือจีเอ็ม 4 แบรนด์จากทั้งหมด 8 แบรนด์ในสหรัฐ บริษัทชี้ว่า ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นนี้จะช่วยคุ้มครองแรงงานในภาคการผลิต เอกชน และดีลเลอร์ในสหรัฐกว่า 3,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี การขายกิจการครั้งนี้จะต้องได้การอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐและจีนก่อน โดยเติ้งจงวางแผนที่จะขอนอุมัติจากทางการจีนเมื่อได้มีการทำข้อตกลงกับจีเอ็มแล้ว