ผลผลิตอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสและอิตาลีทะยานขึ้นในเดือนสิงหาคม เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการซื้อรถใหม่ นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลกำลังช่วยให้เศรษฐกิจยูโรโซน หรือ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร หลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 60 ปี
โดลผลผลิตอุตสาหกรรมฝรั่งเศสเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.8% จากเดือนก.ค. ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของบลูมเบิร์กนิวส์ได้คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมของอิตาลีกระโดดขึ้นถึง 7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบอย่างน้อย 20 ปีเมื่อเทียบเป็นรายเดือน
การปรับตัวขึ้นในภาคการผลิตของฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจยูโรโซนนั้น นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่ยืนยันว่าภูมิภาคที่ใช้เงินสกุลยูโรจะขยายตัวในช่วงไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวมา 5 ไตรมาส โดยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ผลผลิตอุตสาหกรรมของยุโรปในเดือนก.ย.ก็ขยายตัวขึ้นมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น
เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวเพียงเล็กน้อยในไตรมาสสอง เนื่องจากเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของยุโรป กลับมาขยายตัวได้ โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 0.3% ในปี 2553 และได้ลดคาการณ์การหดตัวของเศรษฐกิจปีนี้เหลือแค่ 4.2%